CM Trade

ดาวน์โหลดแอปเพื่อรับโบนัส

ดาวน์โหลด

บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร? ลงทุน Blockchain ได้อย่างไร

2022-10-19
742

ถ้าพูดถึงบล็อกเชน (Blockchain) ทุกท่านคงจะหุ้นหูกันดีแต่หลายๆคนก็ยังมีความหมายที่คลุมเครือเกี่ยวกับบล็อกเชน แล้วทุกท่านเคยสงสัยใหมว่าจริงๆแล้ว blockchain คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร บางคนก็ว่าเป็นระบบการทำงานไร้คนกลาง? บล็อกเชนปลอดภัยสูง? หรือลงทุนในบล็อกเชนได้ค่าตอบแทนสูงเหมือนกับเพื่อนเราที่ชอบลงรูปคริปโตพุ่งทยานสู่ดวงจันทร์นั่นเอง และวันนี้ทาง CM Trade จะมาสรุปหัวข้อสำคัญที่ต้องรู้ก่อนลงทุนบล็อกเชนรวมถึงทุกท่านที่สนใจจะลงทุนในบล็อกเชนว่าตัวไหนที่กำลังน่าจับตามอง ไปลุยกันเลย!

cmtrade เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนขนาดเล็ก


Blockchain คืออะไร

บล็อกเชนคือ เทคโนโลยีการส่งข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยตัวกลางด้านความปลอดภัยและยังเป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูง หรือพูดอีกมุมหนึ่งให้เข้าใจก็คือ บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่บันทึกธุรกรรมแบบ Peer-to-Peer ทั้งหมด สามารถทำธุรกรรมได้อย่างง่ายเช่น โอนเงิน ยืนยันออเดอร์ ลงมติ และจัดการปัญหาต่างๆ

เหตุใด Blockchain จึงมีความสำคัญ

เหตุใดบล็อคเชนจึงมีความสำคัญ ธุรกิจที่ทำงานเกี่ยวโยงกับข้อมูล ยิ่งได้รับเร็วและแม่นยำมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น Blockchain เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการส่งข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากการส่งข้อมูลทันทีและยังสามารถแบ่งปัน อีกทั้งยังโปร่งใสอย่างสมบูรณ์ซึ่งข้อมูลจะถูกจัดเก็บไว้ในบัญชีแยกประเภทที่ไม่เปลี่ยนรูป ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยสมาชิกในเครือข่ายที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เครือข่ายบล็อคเชนสามารถติดตามคำสั่งซื้อ การชำระเงิน บัญชี การผลิต และอื่นๆ อีกมากมาย และคุณยังสามารถดูรายละเอียดทั้งหมดของการทำธุรกรรมตั้งแต่ต้นจนจบได้ ทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น ตลอดจนประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงและยังรวมถึงโอกาสใหม่ๆที่บล็อกเชนสามารถต่อยอดไปได้อีก

อุตสาหกรรมต่างๆ ใช้ Blockchain อย่างไร

เนื่องจากบริษัทต่างๆ ใช้บล็อกเชนเพื่อขับเคลื่อนความโปร่งใสและความจริงที่มากขึ้นทั่วทั้งระบบนิเวศข้อมูลดิจิทัล พวกเขากำลังเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงนโยบายสาธารณะ ต่อไปนี้คือแนวทางใหม่ๆ ที่บริษัทต่างๆ ใช้ประโยชน์จากพลังของบล็อคเชน

  • บริการทางการเงิน (Banking)
    Blockchain และธนาคารเป็นเพียงจุดเริ่มต้น จากมุมมองของมหภาค ธนาคารทำหน้าที่เป็นคลังเก็บของสำคัญและเป็นศูนย์กลางการโอนสิ่งมีมูลค่า ในรูปแบบที่เป็นบัญชีแยกประเภทแบบดิจิทัล และจัดเก็บด้วยความปลอดภัย และป้องกันการถูกโจรกรรม บล็อกเชนสามารถทำหน้าที่เดียวกัน โดยเพิ่มความแม่นยำและการแบ่งปันข้อมูลในระบบนิเวศบริการทางการเงิน
  • การซื้อขายหุ้นและกองทุนป้องกันความเสี่ยง (Stock trading & hedge funds)
    หลายปีที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ ได้ทำงานเพื่อลดความยุ่งยากในการซื้อขายกองทุนและซื้อขายหุ้น และตอนนี้บริษัทสตาร์ทอัพใหม่ที่เน้นบล็อกเชนกำลังมองหาการทำให้กระบวนการทำงานอัตโนมัติและรักษาความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าโซลูชันที่ผ่านมาซึ่งบริษัทต่างๆต้องการเปิดใช้งานธุรกรรมหุ้นออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน โดยแพลตฟอร์มต่างๆพยายามผสานรวมบัญชีแยกประเภทแบบกระจายที่ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสด้วยกระบวนการซื้อขายที่มีอยู่เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการชำระบัญชี เพิ่มความโปร่งใสและตรวจสอบได้

บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร? ลงทุน Blockchain ได้อย่างไร

เทคโนโลยี Blockchain มีคุณสมบัติใดบ้าง

สิ่งที่บล็อกเชนต้องเปลี่ยนแปลงคือโดยปกติแล้วการดำเนินการมักจะเปลืองแรงไปกับการเก็บบันทึกที่ซ้ำกันและการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม ระบบการเก็บบันทึกอาจเสี่ยงต่อการฉ้อโกงและการโจมตีทางไซเบอร์ ความโปร่งใสที่จำกัดอาจทำให้การตรวจสอบข้อมูลช้าลง และด้วยการมาถึงของ IoT (Internet of Things) ปริมาณธุรกรรมก็พุ่งกระฉูด ทั้งหมดนี้ทำให้ธุรกิจช้าลง หมายความว่าเราต้องการวิธีที่ดีกว่า เข้าสู่บล็อกเชน

  • ความไว้วางใจที่มากขึ้น

บล็อคเชนในฐานะสมาชิกของเครือข่ายเฉพาะสมาชิก คุณสามารถมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลา และบันทึกบล็อคเชนที่เป็นความลับของคุณจะถูกแบ่งปันกับสมาชิกเครือข่ายที่คุณให้สิทธิ์การเข้าถึงโดยเฉพาะเท่านั้น

  • ความปลอดภัยที่มากขึ้น

สมาชิกเครือข่ายทุกคนจำเป็นต้องมีฉันทามติเกี่ยวกับความถูกต้องของข้อมูล และธุรกรรมที่ตรวจสอบแล้วทั้งหมดจะไม่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากจะถูกบันทึกอย่างถาวร ไม่มีใครแม้แต่ผู้ดูแลระบบก็ไม่สามารถลบธุรกรรมได้

  • ประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้วยบัญชีแยกประเภทที่ใช้ร่วมกันระหว่างสมาชิกของเครือข่าย การกระทบยอดบันทึกที่เสียเวลาจะถูกตัดออก และเพื่อเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม สามารถจัดเก็บชุดกฎที่เรียกว่าสัญญาอัจฉริยะบนบล็อกเชนและดำเนินการโดยอัตโนมัติ

เครือข่าย Blockchain มีประเภทใดบ้าง

blockchain มี 4 ประเภท

  1. บล็อกเชนสาธารณะ (Public Blockchain)
    บล็อกเชนสาธารณะเปิดกว้างอย่างสมบูรณ์ต่อยอดแนวคิดเรื่องการกระจายอำนาจ ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ใครก็ตามที่มีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าร่วมเครือข่ายได้
  2. บล็อกเชนส่วนตัว (Private Blockchain)
    บล็อกเชนส่วนตัวมีการกระจายอำนาจน้อยกว่าบล็อกเชนสาธารณะ สามารถเลือกโหนดเพื่อเข้าร่วมกระบวนการได้ ทำให้มีความปลอดภัยมากกว่าโหนดอื่นๆ สามารถใช้ได้เพราะผู้ที่ได้รับอนุญาติเท่านั้น
  3. ไฮบริดบล็อคเชน (Hybrid Blockchain)
    เป็นส่วนผสมของบล็อกเชนส่วนตัวและบล็อคเชนสาธารณะซึ่งบางส่วนถูกควบคุมโดยองค์กรและส่วนอื่นๆถูกทำให้มองเห็นเป็นบล็อกเชนสาธารณะ
  4. สมาคมบล็อคเชน (Consortium Blockchain)
    เป็นแนวทางสร้างสรรค์ที่ตอบสนองความต้องการขององค์กร Blockchain ที่ตรวจสอบการทำธุรกรรมทั้งเริ่มต้นและการรับธุรกรรม

บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร? ลงทุน Blockchain ได้อย่างไร

เทคโนโลยี Blockchain มีวิวัฒนาการอย่างไร

บล็อกเชนเริ่มต้นตั้งแต่ Blockchain 1.0 > blockchain 2.0 > blockchain 3.0

Blockchain 3.0 พัฒนาแนวคิดที่นำเสนอโดย blockchain 1.0 และ blockchain 2.0 มากยิ่งขึ้น โดยแนะนำโซลูชันการทำงานร่วมกันและวิธีการที่เป็นเอกฉันท์ใหม่

ระบบนิเวศบล็อกเชนรุ่นที่สามช่วยแก้ปัญหามากมายที่รบกวนเครือข่ายบล็อกเชน 1.0 และบล็อกเชน 2.0 เช่น ความสามารถในการปรับขนาดและการทำงานร่วมกัน เครือข่าย Blockchain 3.0 มักจะแก้ปัญหาความสามารถในการปรับขนาดด้วยอัลกอริธึมฉันทามติใหม่หรือเรียกว่า proof-of-stake (PoS)

แทนที่จะทำการขุด PoS ขอให้ผู้ใช้เดิมพันหรือล็อคโทเค็นเพื่อเป็นผู้ตรวจสอบ ผู้ตรวจสอบความถูกต้องจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกรรมที่เข้ามานั้นถูกต้องก่อนที่จะส่งไปยังเครือข่ายบล็อคเชน โดยจะได้รับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสำหรับความพยายามของพวกเขา

แนวคิดคือผู้ใช้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในเครือข่ายต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเครือข่ายนี้และจะก้าวไปข้างหน้าอย่างดีที่สุดเมื่อต้องตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม นอกจากนี้ การตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมยังเร็วกว่าการขุด ทำให้มั่นใจได้ว่าเครือข่ายสามารถปรับขนาดได้เมื่อมีผู้ตรวจสอบเข้าร่วมมากขึ้น

จากนั้นก็มีโซลูชั่นการทำงานร่วมกันของบล็อคเชน 3.0 แม้จะมีระบบนิเวศบล็อคเชนจำนวนมาก แต่หลายระบบก็แยกจากกัน การแปลงเงินทุนจากระบบนิเวศบล็อคเชนหนึ่งไปสู่อีกระบบหนึ่งผ่านการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลนั้นใช้เวลานานและมีราคาแพง ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเป็นอิสระทางการเงินได้อย่างแท้จริง

โซลูชันการทำงานร่วมกันของ blockchain 3.0 ทั่วไปอย่างหนึ่งคือของบริดจ์ สะพานเชื่อมต่อเครือข่ายบล็อกเชนตั้งแต่สองเครือข่ายขึ้นไป ทำให้ผู้ใช้สามารถแปลงสินทรัพย์จากเครือข่ายหนึ่งไปยังอีกเครือข่ายหนึ่งได้ ในการทำเช่นนั้น สะพานเชื่อมรวมระบบนิเวศบล็อกเชนทุกประเภทเข้าด้วยกัน โดยใช้ประโยชน์จากการเสนออิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ Blockchain

  • การซื้อขายและเช่ารถ (Car leasing & sales)

ประสบการณ์ในการเช่าซื้อหรือขายยานพาหนะเป็นกระบวนการที่กระจัดกระจายอย่างฉาวโฉ่สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกด้านของธุรกรรม แต่บล็อคเชนสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้

ในปี 2015 Visa ได้ร่วมมือกับสตาร์ทอัพการจัดการธุรกรรม DocuSign เพื่อใช้บล็อกเชนเพื่อปรับปรุงการเช่ารถยนต์ โดยเปลี่ยนให้เป็นกระบวนการ “คลิก ลงชื่อ และขับรถ”

ด้วยเครื่องมือ Visa-DocuSign ลูกค้าที่คาดหวังจะเลือกรถที่พวกเขาต้องการเช่าและธุรกรรมจะถูกป้อนในบัญชีแยกประเภทสาธารณะของบล็อคเชน จากนั้นจากที่นั่งคนขับ ลูกค้าจะลงนามในสัญญาเช่าและกรมธรรม์ประกันภัย และบล็อกเชนจะได้รับการอัปเดตด้วยข้อมูลดังกล่าว

วันนี้ บริษัทต่างๆ เช่น carVertical ในเอสโตเนียกำลังใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อติดตามประวัติรถยนต์สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการซื้อรถมือสองได้อย่างน่าเชื่อถือมากขึ้น carVertical จะบันทึกข้อมูลยานพาหนะจากแหล่งต่างๆ รวมทั้งประวัติการเช่าซื้อและการประกันภัยในบัญชีแยกประเภทเดียว จากนั้นจะใช้ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในบัญชีแยกประเภทเพื่อสร้างรายงานที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประวัติรถยนต์ตามหมายเลข VIN ที่ผู้ใช้ป้อน

  • การกุศล (Charity)

สำหรับผู้ที่บริจาคเพื่อการกุศล blockchain ให้ความสามารถในการติดตามได้อย่างแม่นยำว่าการบริจาคของคุณไปที่ไหน เมื่อใดที่พวกเขาได้รับ และการติดตามการบริจาคว่าหลังที่พวกเขาบริจาคไปนั้นผู้รับได้รับอะไรบ้าง

จากจุดนั้น บล็อกเชนสามารถส่งมอบความรับผิดชอบและความโปร่งใสเพื่อจัดการกับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการบริจาคเพื่อการกุศล ซึ่งรวมถึงความไร้ประสิทธิภาพขององค์กร (หรือแม้แต่การประพฤติมิชอบทางการเงิน) ที่สามารถป้องกันไม่ให้เงินไปถึงมือผู้ที่ไม่พึงประสงค์ได้

องค์กรการกุศลที่ใช้ Bitcoin เช่น BitGive Foundation ใช้บัญชีแยกประเภทที่ปลอดภัยและโปร่งใสสำหรับให้ผู้บริจาคมองเห็นการรับและการใช้กองทุนได้ดีขึ้น

บริษัทยังได้เปิดตัว GiveTrack ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการบริจาคหลายมิติบนบล็อคเชน ที่ให้ความสามารถในการโอน ติดตาม และจัดทำบันทึกธุรกรรมทางการเงินการกุศลทั่วโลกอย่างถาวร โดยการใช้ประโยชน์จาก GiveTrack องค์กรการกุศลสามารถผลักดันความไว้วางใจที่ดีขึ้นกับผู้บริจาค

บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร? ลงทุน Blockchain ได้อย่างไร

จะลงทุนใน Blockchain ได้อย่างไร

ปัจจุบันนักลงทุนสามารถลงทุนเงินดิจิทัลกับ CM Trade ด้วยการเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่มีหลากหลายเหรียญให้เลือก อีกทั้งยังสามารถเทรดแบบอัตราทดที่จะช่วยให้นักลงทุนทำกำไรให้ถึงเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น

สรุป

หลังจากทุนท่านได้อ่านข้อดีต่างๆของบล็อกเชนแล้วก็คงมีความสนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชนไม่มากก็น้อย ทั้งความสะดวกในการใช้งาน และยังมีเรื่องความปลอดภัยในระดับที่สูงซึ่งสามารถสร้างความได้เปรียบในยุคนี้รวมถึงอาจสร้างกำไรได้อย่างงามในฐานะการลงทุน

  • ในสถานการณ์ปัจจุบันเทคโนลียีเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมาก อย่างเช่น Cloud Computing, E-Commerce และ AI ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถผนวกเข้ากับเทคโนโลยี Blockchain ได้ดี
  • เนื่องจากบล็อกเชนเป็นระบบที่บริษัทยักษ์ใหญ่เล็งเห็นว่าสามารถนำมาใช้จริงได้และยังต่อยอดได้ไกลทำให้หลายๆบริษัทพยายามนำ Blockchain เข้ามามีส่วนเอี่ยวในการพัฒนา

ซึ่งในอนาคตบล็อกเชนน่าจะเข้ามามีบทบาทในธุรกิจตั้งแต่ระดับ B2B และ B2C เพื่อให้การทำธุรกรรมการเงินสะดวกขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าทุกท่านพร้อมจะเติบโตไปพร้อมกับบล็อกเชนก็ควรหาข้อมูลให้ครบถ้วนแล้วไปลุยกันเลย!

ข้อมูลข้างต้นจัดทำโดยนักวิเคราะห์พิเศษและใช้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น CM Trade ไม่รับประกันความถูกต้อง ทันเวลา และความสมบูรณ์ของเนื้อหาข้อมูล ดังนั้นคุณไม่ควรพึ่งพาข้อมูลที่ให้ไว้มากเกินไป CM Trade ไม่ใช่บริษัทที่ให้คำแนะนำทางการเงิน และให้บริการเฉพาะลักษณะการดำเนินการตามคำสั่งเท่านั้น ผู้อ่านควรขอคำแนะนำในการลงทุนที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง โปรดดูข้อจำกัดความรับผิดชอบทั้งหมดของเรา

รับฟรี
กลยุทธ์การซื้อขายรายวัน
ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

CM Trade แอปพลิเคชันมือถือ

ปฏิทินเศรษฐกิจ

มากกว่า

ได้รับความนิยมสูงสุด